วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

บทความดีดี : มศว เตือนคนรุ่นใหม่เสี่ยงอารมณ์สองขั้ว สุดโค่ง ไร้สุข

บทความดีดี : มศว เตือนคนรุ่นใหม่เสี่ยงอารมณ์สองขั้ว สุดโค่ง ไร้สุข





       ศูนย์พัฒนาความสุขมนุษย์ มศว เตือนคนรุ่นใหม่เสี่ยง อารมณ์สองขั้ว สุดโต่ง ไร้สุข แนะทำงานต้องมีช่วงพัก หากปล่อยจะเป็นคนก้าวร้าว ด่าว่าคนอื่นตลอดเวลา

       ดร.จิตรา ดุษฏีเมธา ประธานโครงการศูนย์พัฒนาความสุขมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่าคนในสังคมทุกวันนี้มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคไบโพลาร์ (Bipolar) หรือโรคอารมณ์สองขั้วมากขึ้น คือมีอาการซึมเศร้า อยากนอนทั้งวัน เบื่อสังคม มีภาวะอยากตาย จากนั้นก็จะมีภาวะเป็นแมนเนีย ที่จะมีภาวะคึก บ้าพลังอย่างมาก คึกคักขยันทำงานแบบไม่หยุด สั่งคนนั้นคนนี้ วุ่นวายไปหมด คล้ายกับพวกขยันทำงาน หากแต่คนที่ขยันเขาทำอย่างสม่ำเสมอ แต่ภาวะแมนเนีย จะชอบคุมคนอื่น มีโครงการมากมาย ร้อยแปดพันเก้าอย่าง คนกลุ่มนี้จะเป็นพวกมีความมั่นใจในตัวเองสูง ใครพูดอะไร เตือนอะไรก็ไม่ฟัง ตัวเองถูกต้องคนเดียว จะแสดงก้าวร้าวคนรอบข้าง อาการลักษณะนี้จะเกิดขึ้นในช่วงที่เขาตกต่ำคือ ทำงานแล้วไม่ประสบความสำเร็จ มีข้อผิดพลาดในการทำงาน มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ไม่มั่นใจ จะเห็นว่าอารมณ์สองขั้นสุดโต่งเกิดขึ้นวนอยู่ในคนๆ นั้นตลอดเวลา เพียงเพราะคนยุคนี้ปล่อยวางไม่เป็น อีกทั้งการทำงานในยุคปัจจุบันนี้เราต้องแข่งขันกันสูงมาก มีการประเมินการทำงานที่สูงขึ้นๆ ทุกปี จึงทำให้คนยุคนี้มีอารมณ์สวิงแบบสองขั้น และไม่มีความสมดุลทางอารมณ์

       “คนที่เป็นโรคไบโพลาร์ ที่อยู่ในภาวะแมนเนีย จะใจใหญ่ จ่ายให้หมด ใครอยากได้อะไรก็จะให้ แบบมากเกินไป ใช้ชีวิตเกินความเป็นจริง หากอยากช็อปปิ้งก็จะช้อปปิ้งแบบทุ่มสุดตัว ทำกิจกรรมใดจะคึก เมื่อภาวะแมนเนียหยุดลงเขาก็จะเบื่อ ซึมเศร้า ไม่อยากทำอะไรอีกเลย วนเวียนเช่นนี้เรื่อยไป โรคไบโพลาร์อาจมาจากกรรมพันธุ์ หรือสารเคมีในสมองที่ผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้ชี้ชัดว่ามาจากอะไรแน่ แต่ก็ควรจะลองตรวจสอบตัวเองว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงของโรคหรือไม่ ด้วยการพินิจพิเคราะห์ การใช้ชีวิตประจำวัน บางคนเวลาอาหารก็นั่งทำงาน ไ ม่มีช่วงพัก กินอาหารในห้องประชุม ช่วงเวลาพักควรจะได้พักและค่อยไปทำงานต่อ หากเรายังจัดเวลาพักให้ชีวิตไม่ได้จะเกิดความเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะเป็นโรคอารมณ์สองขั้วขึ้น เมื่อเป็นโรคนี้และเข้าสู่ภาวะแมนเนีย เราไม่สามารถเข้าช่วยเหลืออะไรได้เลย เพราะเขาจะไม่ฟัง และจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาคุม จึงต้องช่วยกันดูแลอารมณ์ของตัวเองและคนใกล้ชิดในครอบครัว”

       ดร.จิตรา กล่าวอีกว่า คนที่ป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ จะไม่ทำร้ายคนอื่นทางร่างกาย หากแต่จะทำร้ายคนอื่นด้วยคำพูด เช่นจะด่า ต่อว่า ก้าวร้าวคนอื่น และแสดงตัวเองว่าเก่งเกินคนอื่นพวกนี้จะมีอัตตาตัวตนสูงมาก ทำให้คนรอบข้างไม่มีความสุขและรู้สึกอึดอัด


บทความจาก : ทรูปลูกปัญญา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น